อบรมใบขับขี่ 5 ปี ทำออนไลน์ก็ได้ ไม่เสียเวลา

เมื่อพูดถึงการต่อใบขับขี่ เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกได้ถึงความยุ่งยาก ต้องเสียเวลาทั้งวันกว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ได้ครบถ้วน โดยเฉพาะการอบรมที่ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ฉะนั้น หากจัดการเวลาไม่ดี อาจไม่จบในวันเดียว ต้องไปทำเรื่องใหม่วันหลัง ลืมอดีตไปได้เลย เพราะปัจจุบัน อบรมใบขับขี่ 5 ปี ทำออนไลน์ได้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางให้ยุ่งยากและเครียดกับรถติดด้วย

สำหรับการต่อใบขับขี่ออนไลน์  ต้องทำความเข้าใจให้ดีเกี่ยวกับชั่วโมงการอบรมใบขับขี่ เนื่องจากถ้าหากอบรมไม่ครบจำนวนชั่วโมง อาจทำให้คุณไม่สามารถทำใบขับขี่ใหม่ได้ โดยการต่อใบขับขี่ส่วนบุคคลแบบ 5 ปีเป็น 5 ปี นั้นใช้เวลาอบรมใบขับขี่ออนไลน์ 1 ชั่วโมง สามารถต่อล่วงหน้าได้ 3 เดือน ฉะนั้น ควรเลือกวันและเวลาที่สะดวก ไม่มีธุระเร่งด่วน เพื่อให้การชมคลิปเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพราะหากรับชมคลิปไม่จบ หรือปิดหน้าเว็บไซต์ก่อน หรือไม่ได้กรอกข้อมูลยืนยัน จะต้องเริ่มรับชมคลิปใหม่ตั้งแต่ต้น 

สำหรับการอบรมใบขับขี่ออนไลน์จะสามารถเข้าอบรมได้เฉพาะผู้ที่มีใบขับขี่แล้วเท่านั้น หากเป็นผู้ทำใบขับขี่ใหม่ครั้งแรกไม่สามารถอบรมออนไลน์ได้ ต้องเดินทางไปที่สำนักงานเท่านั้น  

ขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ 5 ปี ออนไลน์ 

1. เข้าเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เพื่อทำการลงทะเบียน

เว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เป็นเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกสำหรับให้ผู้ที่ต้องการเข้าอบรมใบขับขี่ออนไลน์ โดยระบบการอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถนั้น มีให้เลือกลงทะเบียนสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ สำหรับคนไทย คลิก “ลงทะเบียน”

2. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

สำหรับข้อมูลที่ต้องระบุ ได้แก่ เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล และวันเดือนปีเกิด จากนั้น คลิก “ดำเนินการต่อ” 

หน้าจอจะขึ้นข้อความเกี่ยวกับเงื่อนไขการละทะเบียน ให้คลิกเลือก “ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข” แล้ว คลิก “ยืนยัน”

3. เลือกการอบรมใบขับขี่ ตามใบอนุญาตขับรถที่ต้องการต่ออายุ

การอบรมใบอนุญาตขับรถ มีให้เลือก 5 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ 1. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) โดยมีระยะเวลาอบรม 1 ชั่วโมง 2. ใบอนุญาตขับรถขนส่ง โดยมีระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง 3. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล ขาดต่ออายุเกิน 1 ปี (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) โดยมีระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง 4. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราว สิ้นอายุเกิน 3 ปี (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) โดยมีระยะเวลาอบรม 2 ชั่วโมง 5. ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ มีระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง ซึ่งการเลือกอบรมใบขับขี่นั้น จะต้องเลือกให้ถูกต้องกับประเภทการอบรมใบขับขี่ที่ต้องการ

ในตัวอย่างนี้จะทำการเลือกอบรมใบขับขี่ประเภท “ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ รถยนต์) โดยมีระยะเวลาอบรม 1 ชั่วโมง” คลิก “สมัครอบรม”

จากนั้นคลิก “ดำเนินการต่อ”

4. ดูคลิปการอบรมการขับรถให้จบ

สำหรับคลิปการอบรมใบขับขี่มีทั้งหมด 4 ส่วน รวมเวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมง โดยให้ดูคลิปทีละส่วนจนครบทั้ง 4 ส่วน ระหว่างชมคลิปแต่ละส่วน จะมีคำถามขึ้นมาบนหน้าจอ (ส่วนละ 1 คำถาม) ให้คลิกเลือกคำตอบที่คิดว่าถูกต้อง เมื่อทำแบบทดสอบเสร็จให้ กดส่ง ดูคลิปจนจบและกดไปตามขั้นตอนต่อไปจนครบทั้ง 4 ส่วน ทั้งนี้ หากรับชมคลิปไม่จบ หรือปิดหน้าเว็บไซต์ก่อน หรือไม่ได้กรอกข้อมูลยืนยัน จะต้องเริ่มรับชมคลิปใหม่ตั้งแต่ต้น 

ตัวอย่างคำถามในการอบรมใบขับขี่ 5 ปี

5. ตอบคำถามแบบทดสอบหลังอบรม

เมื่อดูคลิปการอบรมใบขับขี่ออนไลน์จนครบแล้ว จะมีคำถามทั้ง 4 ข้อ (ที่เคยตอบไปก่อนหน้านี้) ขึ้นมาบนหน้าจออีกครั้ง ให้ตอบแบบทดสอบหลังอบรมใบขับขี่ให้ครบทุกข้อ หลังจากนั้น ระบบจะทำการประมวลผลว่าผ่านการทดสอบหรือไม่ ซึ่งหากผ่านการทดสอบเรียบร้อยหน้าจอจะปรากฏตามภาพด้านล่าง

6. บันทึกหน้าจอผลการอบรม เพื่อใช้เป็นหลักฐาน

เมื่อผ่านการทดสอบอบรมใบขับขี่ออนไลน์แล้ว ระบบจะแสดงรายละเอียดบนหน้าจอว่าผ่านการอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถขึ้นมา โดยมีรายละเอียด ได้แก่ คิวอาร์โค้ด รหัสอ้างอิง เลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปี ที่ผ่านการอบรม หลังจากนั้นให้คลิก “บันทึก” เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับการต่อใบขับขี่ ทั้งนี้ ผลการอบรมใบขับขี่จะมีอายุทั้งสิ้น 6 เดือน นับจากวันที่ผ่านการอบรม 

เมื่อผ่านขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์แล้ว เราจะต้องไปยื่นเอกสารต่าง ๆ ที่สำนักงานขนส่งด้วยตัวเอง แต่เราสามารถจองคิวล่วงหน้าก่อนได้เพื่อความสะดวกสบาย โดยทำการจองคิวต่อใบขับขี่ 5 ปี ผ่านเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th หรือ แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนจองคิวต่อใบขับขี่อย่าลืมบันทึกหน้าจอเป็นหลักฐานเพื่อไปยื่นในวันนัด

หลังจากจองคิวเรียบร้อยแล้ว ให้เตรียมเอกสารที่ใช้ต่อใบขับขี่ให้พร้อม ได้แก่ ใบขับขี่เดิม, บัตรประชาชนฉบับจริง และใบรับรองแพทย์ (ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน) รวมถึงค่าใช้จ่ายในการต่ออายุใบขับขี่ จำนวน 505 บาท (ค่าใบขับขี่ 500 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท) จากนั้นเดินทางไปที่สำนักงานขนส่งที่สะดวกตามวันนัด (ต้องไปติดต่อก่อนเวลานัดหมายอย่างน้อย 1 ชั่วโมง) แสดงเอกสารการอบรมใบขับขี่และการจองคิวแก่เจ้าหน้าที่ จากนั้นก็ไปทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เมื่อผ่านการทดสอบเรียบร้อย ก็มาถึงขั้นตอนการถ่ายรูปทำใบขับขี่ใบใหม่ พร้อมจ่ายค่าธรรมเนียม เป็นอันเรียบร้อย 

จะเห็นว่าการอบรมใบขับขี่ออนไลน์มีประโยชน์มาก สามารถอบรมได้ทุกที่ทุกเวลาแค่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ทั้งสะดวกและช่วยให้ประหยัดเวลา ที่สำคัญขั้นตอนไม่ยุ่งยากอย่างเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และเพื่อความปลอดภัยทุกการเดินทาง ชัวร์ครับ แนะนำว่าควรมีประกันรถยนต์ไว้คุ้มครองอุ่นใจตลอดทุกเส้นทาง

เช็คเบี้ยหรือ ซื้อประกันรถยนต์ กับ ชัวร์ครับ

https://surekrub.com/motor-insurance

สอบถาม