5 วิธีแก้ไขเช็คเบื้องต้น รถสตาร์ทไม่ติด เกียร์ออโต้

รถเสียตาร์ทไม่ติด ปัญหาเหนื่อยใจของคนใช้รถ เมื่อวานยังใช้ได้ เอ้า! มาวันนี้รถสตาร์ทไม่ติดแล้ว เวลาเร่งรีบชวนให้อารมณ์เสียได้ หลากหลายสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด แต่เราสามารถแก้ไขเองได้เบื้องต้น เพื่อเซฟเงินในกระเป๋าได้แบบไม่ต้องพึ่งช่างซ่อมรถ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ชัวร์ครับ ได้รวม 5 วิธีแก้ไขเบื้องต้น เมื่อรถสตาร์ทไม่ติดมาฝาก แต่ถ้าตรวจสอบแล้วแก้ไขไม่ได้ก็ต้องให้ช่างเขาช่วยเราด้วยนะ

เช็คเบื้องต้น รถสตาร์ทไม่ติด

รถสตาร์ทไม่ติด รถเสียฉุกเฉิน เซฟเบอร์ใส่มือถือไว้มีประโยชน์มาก

  • จ.ส. 100 โทร. 1137
  • สวพ. FM91 โทร. 1644
  • ตำรวจทางหลวง โทร.1193
  • สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586
  • ศูนย์ความปลอดภัยคมนาคม โทร. 1356
  • สายด่วนประกันภัย โทร. 1186

1.เช็คน้ำมันหมด

ไม่ได้เรื่องเล่นๆ เพราะเกิดขึ้นได้แบบไม่ทันตั้งตัว เพราะเราลืมสังเกตเกจ์วัดน้ำมัน ขับมาอย่างเพลินๆ ไปจอดรถบ้านเพื่อน เอ้าสตาร์ทรถไม่ติดเฉยๆ เลย หงุดหงิดหัวใจสตาร์ทรถเท่าไรก็ไม่ติด มองสักนิดที่เกจ์วัดน้ำมัน จริงๆ แล้วรถอาจไม่ได้เสีย แต่น้ำมันคุณหมดหรือเปล่า ยิ่งช่วงนี้น้ำมันแพง หลายๆ คนอาจเติมน้ำมันจ่ายเงินเท่าเดิมแต่น้ำมันที่ได้มานิดเดียว ขับไม่ถึง 10 กม. ก็หมดสะแล้วจนบางครั้งอาจเผลอลืมได้


2. แบตเตอรี่รถยนต์หมด

โดยทั่วไปแบตเตอรี่รถยนต์ จะมีอายุใช้งานประมาณ 1-2 ปี หากใช้นานแล้วยังไม่เคยได้เปลี่ยนเลย ก็อาจเป็นไปได้มากๆ ที่จะทำให้รถสตาร์ทไม่ติด และวิธีสังเกตอาการแบตเตอรี่หมด คือ เมื่อบิดกุญแจสตาร์ทรถแล้วสตาร์ทรถไม่ติด มีเสียง แชะนานขึ้น ไม่มีไฟ เงียบ ซึ่งแบตเตอรี่หมด ส่วนมากจะเกิดได้ในช่วงเช้า มีการจอดรถค้างคืน หรือจอดรถทิ้งไว้นานโดยไม่มีการใช้งาน หรือจอดรถระหว่างวัน เช่นทำงาน หรือไปทำธุระแล้วมีการจอดรถยนต์ทิ้งไว้ การแก้ไขชั่วคราวอาจจั๊มแบตเตอรี่ ให้รถคันอื่นช่วย หรือบางคันอาจจั๊มไม่ได้ก็ต้องมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ใหม่ ปัจจุบันก็มีบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ถึงที่เลย

3. ไดสตาร์ตเสื่อม

รถสตาร์ตไม่ติด อีกหนึ่งสาเหตุอาจเกิดจากไดสตาร์ตเสื่อมได้เช่นกัน ซึ่งสังเกตได้เองง่ายๆ คือ เช็คที่แผงหน้าปัดรถคุณเอง ถ้าไฟแบตเตอรี่ขึ้นปกติ แต่รถสตาร์ตไม่ติด หรือมีเสียงแชะๆ อืดๆ แล้วก็สตาร์ตไม่ได้อยู่ดี ก็มีความเป็นไปได้ว่า ไดสตาร์ตเสื่อม หรืออาจมีปัญหา และถ้าสาเหตุเกิดจากไดสตาร์ตก็ต้องโทรเรียกช่างมาช่วยเราให้ไว เพราะหากไดสตาร์ตเสื่อมเราซ่อมเองไม่ได้ ต้องมีเครื่องมือ และช่างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น 

4. เช็คกรองน้ำมันเชื้อเพลิงตัน

มีอะไรตันหรือเปล่า? ถ้ากรองน้ำมันเชื้อเพลิงตัน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถยนต์เกียร์ออโต้ สตาร์ทไม่ติด เช่นกัน กรองน้ำมันเชื้อเพลิงตัน อาจเกิดจากถังน้ำมันสกปรก โดยทั่วไปรถยนต์ใช้ประมาณ 6-7 ปี อาจต้องเช็คถังน้ำมัน เพราะใช้งานนานอาจเกิดสนิท คราบตะกอนในถังน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้มีผงต่างๆ เกิดขึ้น และเมื่อถูกดูดเข้าไปในปั๊มเชื้อเพลิงและหัวฉีด จะทำให้เกิดปัญหาการอุดตัน น้ำมันเชื้อเพลิงไหลไม่สะดวกหรืออาจไม่ไหลเลย ทำให้สตาร์ทรถไม่ติดนั่นเอง

5. ปั๊มติ๊กเสีย

เรื่องเล็กๆ ที่เราอาจหาไม่เจอคือ เรื่องของปั๊มติ๊ก ซึ่งเขามีหน้าที่ในการดูดน้ำมันจากตัวถังส่งไปยังเครื่องยนต์ หากมีการเสียก็ไม่สามารถสตาร์ตรถยนต์ได้ ซึ่งรถยนต์ปัจจุบันในกรณีนี้จะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะใช้ปั๊มเชื้อเพลิงแบบขับด้วยเฟืองและมอเตอร์ไฟฟ้า การสังเกตปั๊มติ๊กเสียทำให้สตาร์ตรถไม่ติดคือ สตาร์ทรถแล้วเครื่องยนต์กระตุก หรือเร่งไม่ขึ้น หากมีเหตุการณ์ปั๊มติ๊กเสียอาจต้องปรึกษาช่าง เพราะจัดการเองได้ค่อนข้างลำบากและยากพอควรเลย

อีกหลากหลายสาเหตุมากมายที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด แต่ทุกการใช้รถหากมั่นดูแลตรวจรถยนต์ทุกครั้ง เจออาการไม่ดี หรือเช็คตามระยะไมล์รถก็ช่วยให้คุณไม่มีปัญหารถสตาร์ทไม่ติดมากวนใจ ขับรถอย่างปลอดภัย มีสติทุกการสตาร์ท และเพื่อความสบายใจอุ่นใจไว้ก่อน ชัวร์ครับ แนะนำให้มีประกันรถยนต์ไว้ด้วย เพราะช่วยคุ้มครองทั้งรถยนต์และผู้โดยสารในรถหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์กับ ชัวร์ครับ เช็คเลย

สอบถาม