อยากจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ถูก และได้รับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ด้วย… จะซื้อประกันชั้นไหนดี ให้คุ้มค่าต่อผู้เอาประกัน ทุกเรื่องของประกันรถยนต์ ชัวร์ครับ มีคำตอบให้คุณ
เช็คราคาประกันรถยนต์ กับ ชัวร์ครับ
ถ้าถามถึงความคุ้มครองแบบไหนคุ้มค่า เราต้องขอบอกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองครอบคลุมที่สุด แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง และกับผู้ขับขี่บางรายก็มองว่าเกินความต้องการ สำหรับประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าไม่แพ้กัน ชัวร์ครับขอแนะนำ ประกันรถชั้น 2 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
ประกันรถชั้น 2 คุ้มครองครอบคลุมเช่นเดียวกับประกันรถชั้น 1 ดูแลคู่กรณี หรือแม้กระทั่งภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วม ไฟไหม้ หรือถูกโจรกรรมรถยนต์ แต่ไม่คุ้มครองผู้เอาประกันที่ทำรถยนต์เสียหายเอง เช่น รถชนต้นไม้ ชนเสา ขีดข่วนฟุตบาท หรือหินกระเด็นใส่ หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า “เจ็บเอง จ่ายเอง”
ประกันชั้น 2 เหมาะกับใคร และดีอย่างไร
1.ราคาเบาๆ คุ้มครองครอบคลุม
อย่ามองข้ามประกันชั้น 2 ไปเชียว เพราะประกันประเภทนี้ออกแบบมาให้ครอบคลุมมากกว่าที่คิด เช่น คุ้มครองรับผิดต่อบุคคลภายนอก กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ รวมทั้งดูแลค่ารักษาพยาบาลให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วย ถูกและดีแบบนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย
2. เช็คอายุการใช้งานรถยนต์ ช่วยเซฟได้
หลาย ๆ คนก่อนจะซื้อประกันรถยนต์ ลองเช็คปีว่ารถมีอายุเท่าไหร่ เช่น 7 ปีขึ้นไป รถเก่า หรือว่าราคาที่ไม่แพงมาก สามารถเลือกซื้อประกันชั้น 2 ได้ จะช่วยประหยัดตรงส่วนนี้ไปได้เยอะเลยทีเดียว
3. เหมาะกับผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ และวินัยที่ดี
ประกันรถชั้น 2 นอกจากราคาถูกกว่าประกันรถชั้น 1 แต่อาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่มากนัก แต่จะเหมาะกับคนที่มีประสบการณ์ในการขับรถยนต์มาบ้างแล้ว และคนที่มีวินัยการขับที่ดี เพราะตรงส่วนนี้อย่างน้อยก็อาจจะเป็นการประเมินได้ว่า อุบัติเหตุจะเกิดน้อยลง แล้วบางบริษัทสามารถผ่อนจ่ายค่าประกันได้ต่อเดือนในราคาที่ถูกด้วย ครบครันแบบนี้ สบายใจแถมสบายกระเป๋าอีกด้วย
4. เหมาะผู้ที่ไม่ค่อยได้ขับรถ
อีกหนึ่งปัจจัยที่แนะนำ หากไม่ค่อยได้ขับรถ ให้คุณเลือกทำประกันรถชั้น 2 หรือนาน ๆ จะขับ เนื่องจากประกันชั้น 2 ไม่ได้คุ้มครองความเสียหายของรถในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ จึงน่าจะตอบโจทย์สำหรับคนกลุ่มนี้ได้ และเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องไม่คาดฝันก็น้อยลงไปด้วย
สรุปง่ายๆ อีกครั้ง ประกันชั้น 2 นั้น ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย และราคาก็ถูกกว่าประกันชั้น 1 ค่อนข้างมากเลยทีเดียว การคุ้มครองก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ครอบคลุมเกือบทุกอย่าง เว้นแต่ว่าหากเกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี ทางประกันจะเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบคู่กรณีให้นั่นเอง
ชัวร์ครับ อยากย้ำอีกครั้งว่า เมื่อไหร่ที่เราต้องขับขี่ยานพาหนะ ความไม่ประมาทและสติสำคัญเสมอ ถึงแม้จะมี ประกันรถยนต์ก็ตาม แต่การไม่เกิดปัญหา หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คงจะดีกว่า