เพราะอุบัติเหตุไม่สามารถคาดการณ์ได้ การทำประกันรถยนต์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้มีรถยนต์ เพื่อซื้อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราและทรัพย์สิน เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์จะได้มีความคุ้มครอง และการเคลมประกันรถก็ไม่ใช่เรื่องยากวุ่นวายอะไร และยังคงมีอีกหลายเรื่องที่เหล่าคนขับรถไม่รู้ว่า แบบนี้ก็เคลมประกันรถได้ วันนี้ ชัวร์ครับ มาบอกต่อ เกิดเหตุแบบนี้เมื่อไร เคลมประกันรถได้สบายใจหายห่วง
5 เรื่อง แบบนี้ก็เคลมประกันรถได้
1. เติมน้ำมันผิด
การเติมน้ำมันผิด เป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ อาจเนื่องมาจากความเผอเรอหรือการสื่อสารที่ผิดพลาด กรณีนี้ หากทำประกันรถชั้น 1 สามารถเคลมประกันรถได้ เพราะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดความเสียหายให้กับรถ สำหรับวิธีการเคลมประกันรถ เมื่อเติมน้ำมันผิด ให้รีบแจ้งบริษัทประกันทันทีที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันรถยนต์ เข้ามาตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นก่อน ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ ห้ามตกลงข้อเสนอใดๆ ทั้งสิ้นกับทางปั๊มคู่กรณีเองโดยพละการ หรือรีบนำรถไปส่งซ่อม เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเองโดยเด็ดขาด เพราะถ้าเราทำผิดขั้นตอน หรือผิดข้อตกลง รวมถึงแจ้งบริษัทประกันล่าช้าเกินไป ทางบริษัทอาจปัดความรับผิดชอบได้ เนื่องจากเจ้าของรถไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกับทางบริษัทประกันไว้นั่นเอง
2. กุญแจรถยนต์หาย
กุญแจรถยนต์ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการเปิด-ปิด และสตาร์ตรถยนต์ เพราะเป็นของมีค่ารวมถึงมีขนาดเล็กจึงมีโอกาสสูญหายได้ง่าย เมื่อกุญแจรถหาย หากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สามารถเคลมประกันได้ เฉพาะในกรณีได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุจนไม่สามารถใช้งานได้ หรือสูญหายอันเนื่องมาจากการถูกโจรกรรมเท่านั้น เช่น ลักทรัพย์, ชิงทรัพย์, ปล้นทรัพย์ ฯลฯ ส่วนกรณีลืมกุญแจหรือทำหล่นหายด้วยตัวเอง รวมถึงกุญแจชำรุดเสียหาย เช่น ตกน้ำ, กระแทกพื้นจนแตก, เสื่อมสภาพจนใช้งานไม่ได้ ฯลฯ ไม่สามารถเคลมประกันได้ โดยในกรณีกุญแจรถหายเนื่องจากถูกโจรกรรม เจ้าของรถจะต้องแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการขอรับค่าสินไหมทดแทนกับบริษัทประกันภัยต่อไป
3. ยางรถยนต์ระเบิด
ยางรถยนต์นั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถสามารถเคลื่อนตัวหรือหยุดได้ เมื่อรถยางระเบิดหากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สามารถเคลมประกันได้ เฉพาะในกรณียางระเบิดเกิดจากอุบัติเหตุ เช่น ขับรถตกหลุมแล้วยางเกิดแตกโดยตัวยางไม่มีการเสื่อมสภาพ โดยบริษัทประกันรถจะรับผิดชอบค่าเสียหายเพียง 50% ของราคายางเท่านั้น เพราะมีเรื่องของค่าเสื่อมเข้ามาเกี่ยวข้อง (ยางรถยนต์ถือเป็นอุปกรณ์ที่สามารถเสื่อมได้เอง) แต่ถ้าเพิ่งออกรถใหม่ ให้นำหลักฐานการเปลี่ยนยาง มาพิจารณาเคลมตามความเป็นจริง ส่วนในกรณีขับรถอยู่ดีๆ แล้วยางระเบิด หรือขับไปเหยียบตะปูจนทำให้ยางรั่ว ไม่สามารถเคลมประกันรถได้ เพราะประกันรถไม่คุ้มครองความเสียหายยางรถยนต์เกิดจากการเสื่อมสภาพ แต่จะคุ้มครองเฉพาะส่วนของตัวรถยนต์
4. หินกระเด็นใส่รถ
หินกระเด็นใส่กระจกรถ ถือเป็นปัญหายากจะหาวิธีป้องกัน ทำเอาระแวงทุกครั้งเวลาขับรถตามรถบรรทุกขนหินขนทราย กรณีมีก้อนหินกระเด็นใส่กระจกรวมถึงกระจกโคมไฟหน้า และไฟตัดหมอก หากทำประกันรถชั้น 1 สามารถเคลมประกันรถได้ แต่ในกรณีที่หินกระเด็นใส่ตัวรถไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงรถด้านหน้า ประตูด้านข้าง กันชน หรือบริเวณอื่นๆ ที่ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการขับขี่หรือมีร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ชัดเจนมากนัก สามารถเคลมประกันได้แต่จะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) อย่างน้อย 1,000 บาท เพราะถือว่าเป็นการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี เว้นเสียแต่ว่าสามารถตามตัวคู่กรณีได้ ฉะนั้น ควรมีหลักฐานชัดเจน เช่น ทะเบียนรถของคู่กรณี มีรูปถ่ายของรถคู่กรณี
5. หนูกัดสายไฟรถ
หนูนวายร้ายตัวจิ๋วสามารถสร้างความเสียหายรถยนต์ได้แบบคาดไม่ถึง เพราะมันจะเข้าไปกัดทำลายสายไฟตามจุดต่างๆ ในรถหรือห้องเครื่อง จนอาจส่งผลทำให้เครื่องยนต์เกิดปัญหา ใช้งานไม่ได้ สตาร์ทรถไม่ติด ต้องส่งซ่อม กรณีนี้ หากทำประกันชั้น 1 สามารถเคลมประกันได้ เพราะถือเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง ไม่ได้เกิดจากการเสื่อมสภาพของรถยนต์ การดัดแปลง รวมไปถึงการใช้งาน สำหรับวิธีการเคลมประกัน เริ่มจากถ่ายรูปความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน โดยเฉพาะรอยเท้าหนู พยายามหาให้เจอ เพื่อเพิ่มน้ำหนักของหลักฐานให้แน่นยิ่งขึ้น (ห้ามเช็ดร่องรอยต่างๆ ออกจนกว่าเจ้าหน้าที่ประกันภัยจะออกใบเคลมให้) จากนั้นจึงแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อทำการเคลมประกันต่อไป
ย้ำกันอีกครั้งว่า ทั้ง 5 เรื่องที่ยกมาข้างต้น สามารถเคลมประกันรถได้ เฉพาะกรณีทำประกันรถชั้น 1 เท่านั้น ทั้งนี้ หากเกิดอุบัติเหตุใดๆ จากการขับรถ อย่าลืมสอบถามบริษัทประกันรถยนต์ให้ชัดเจนเพื่อรักษาสิทธิการเคลมประกันนะ
เช็คราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ ชัวร์ครับ
