ขั้นตอนจองคิวต่อใบขับขี่ ผ่าน DLT แบบละเอียด

เพราะการรอคอยอย่างไร้จุดหมายเป็นเรื่องที่เสียเวลาและเสียสุขภาพจิตมาก การต่อใบขับขี่ก็เช่นกัน ในยุคก่อนผู้ขับขี่จำนวนไม่น้อยคงเคยเจอประสบการณ์สุดเซ็งที่ต้องรอคิวต่อใบขับขี่นาน ๆ และอาจต้องรอเก้อเพราะคิวเต็ม ต้องเสียเวลาและค่าเดินทางเพื่อมาใหม่วันหลัง แต่ ณ ตอนนี้ ปัญหาที่ว่าจะหมดไปเมื่อเราสามารถจองคิวต่อใบขับขี่ ผ่าน DLT 

ขั้นตอนจองคิวต่อใบขับขี่ ผ่าน DLT แบบละเอียด 

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ gecc.dlt.go.th หรือ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue 

เป็นระบบจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบก (Department of Land Transport) ทั้งนี้ไม่ว่าจะจองคิวผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันก็มีขั้นตอนเหมือนกัน ต่างกันแค่ดีไซน์ของหน้าจอ จากนั้น คลิก “ลงทะเบียน”

2. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

ระบบการจองคิวต่อใบขับขี่นั้น มีให้เลือกลงทะเบียนประเภทผู้ใช้งานสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ สำหรับคนไทยให้ คลิก “คนไทย” 

จากนั้นเลือกและกรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์มือถือ ส่วน อีเมล และไอดีไลน์ จะกรอกข้อมูลหรือไม่ก็ได้ จากนั้น สร้างรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ แล้ว คลิก “ยืนยัน” 

หลังจาก คลิก “ยืนยัน” หน้าจอจะขึ้นข้อความเกี่ยวกับเงื่อนไขการละทะเบียน ให้คลิกเลือก “ยอมรับเงื่อนไข” แล้ว คลิก “ลงทะเบียน”

เมื่อ คลิก “ลงทะเบียน” เรียบร้อย หน้าจอจะขึ้นข้อความว่า “ลงทะเบียนสำเร็จ”

3. เข้าสู่ระบบ

กรอกเลขบัตรประชาชน และรหัสผ่านที่ได้กำหนดไว้ แล้ว คลิก “เข้าสู่ระบบ”

4. เลือกสำนักงานขนส่งที่ต้องการจองคิวต่อใบขับขี่

เข้าเมนูค้นหาสำนักงานขนส่งที่ต้องการเข้ารับบริการ โดยเลือกสาขาที่ใกล้บ้าน หรือสะดวกต่อการเดินทางไปต่ออายุใบขับขี่มากที่สุด

5. เลือกประเภทงานบริการเป็น “งานใบอนุญาต”

สำหรับในขั้นตอนของการเลือกประเภทงานรับบริการ มีให้เลือก 3 ประเภท ได้แก่ งานทะเบียน, งานใบอนุญาต, งานตรวจสภาพ ให้ คลิก “งานใบอนุญาต” เพื่อทำการจองคิวต่ออายุใบขับขี่

6. เลือกประเภทใบอนุญาตขับรถที่ต้องการจองคิวต่อใบขับขี่

สำหรับในขั้นตอนของการเลือกประเภทใบอนุญาตขับรถ มีให้เลือก 3 ประเภท ได้แก่ ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล, ใบอนุญาตรถสาธารณะ, ใบอนุญาต พรบ. ขนส่ง ให้ คลิก “ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล” เพื่อทำการจองคิวต่ออายุใบขับขี่

7. เลือกประเภทบริการที่ต้องการจองคิวต่อใบขับขี่

สำหรับในขั้นตอนของการเลือกประเภทเข้ารับบริการ มีให้เลือก 5 ประเภท ได้แก่ ทำใบอนุญาตขับรถใหม่, ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ, หนังสือรับรองผลการอบรมจากโรงเรียนสอนขับรถ, ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ, อื่น ๆ ให้ คลิก “ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ” เพื่อทำการจองคิวต่ออายุใบขับขี่

8. เลือกประเภทยานพาหนะที่ต้องการจองคิวต่อใบขับขี่ 

สำหรับในขั้นตอนของการเลือกประเภทยานพาหนะ มีให้เลือก 4 ประเภท ได้แก่ รถจักรยานยนต์, รถยนต์, รถยนต์และรถจักรยานยนต์, รถสามล้อ ในตัวอย่างนี้จะเลือก คลิก “รถยนต์” เพื่อทำการจองคิวต่ออายุใบขับขี่

9. กรอกข้อมูลใบอนุญาตขับขี่

สำหรับในขั้นตอนของการกรอกข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ให้กรอกวันเดือนปีที่ใบขับขี่หมดอายุ เลือกชนิดรถ จากนั้น คลิก “ยืนยัน” เพื่อทำการจองคิวต่ออายุใบขับขี่

10. เลือกประเภทงานที่ต้องการเข้ารับบริการ

สำหรับในขั้นตอนของการเลือกประเภทงาน มีให้เลือก 6 ประเภท ได้แก่ ใบอนุญาตส่วนบุคคล : การขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ (จาก 5 ปี เป็น 5 ปี) สิ้นอายุเกิน 1 ปี ขึ้นไป, ใบอนุญาตส่วนบุคคล : การขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ (จาก 5 ปี เป็น 5 ปี) สิ้นอายุไม่เกิน 1 ปี ขึ้นไป (ขออบรมในสำนักงาน), ใบอนุญาตส่วนบุคคล : การขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ (จาก 5 ปี เป็น 5 ปี) สิ้นอายุไม่เกิน 1 ปี ขึ้นไป (อบรมผ่าน e-learning), ใบอนุญาตส่วนบุคคล : การขอเปลี่ยนชนิดใบอนุญาตขับรถ (จาก 2 ปี เป็น 5 ปี) สิ้นอายุเกิน 1 ปี ขึ้นไป, ใบอนุญาตส่วนบุคคล : การขอเปลี่ยนชนิดใบอนุญาตขับรถ (จาก 2 ปี เป็น 5 ปี) สิ้นอายุไม่เกิน 1 ปี ขึ้นไป, ใบอนุญาตส่วนบุคคล : การขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ (จาก 5 ปี เป็น 5 ปี) ขาดเกิน 1 ปี ขึ้นไป (อบรมผ่าน e-learning) ในตัวอย่างนี้จะเลือก คลิก “ใบอนุญาตส่วนบุคคล : การขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ (จาก 5 ปี เป็น 5 ปี) สิ้นอายุไม่เกิน 1 ปี ขึ้นไป (ขออบรมในสำนักงาน)” เพื่อทำการจองคิวต่ออายุใบขับขี่

11. เลือกวันเวลาที่ต้องการจองคิวต่อใบขับขี่

กดเลือกวันที่ ที่มีคิวว่างเพื่อเข้าใช้บริการ 

เมื่อเลือกวันที่เรียบร้อยแล้วถึงจะเลือกช่วงเวลาได้ในขั้นตอนถัดไป 

เมื่อเลือกเวลาเรียบร้อย หน้าจอจะขึ้นคำเตือนว่า สามารถจองคิวได้ 1 รายการ ต่อ 1 หมวด อ่านรายละเอียดแล้ว คลิก “รับทราบ” 

12. ยืนยันการจองคิวต่อใบขับขี่ 

และบันทึกหน้าจอผลการจองคิวต่อใบขับขี่ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน

หน้าจอจะแสดงข้อมูลการจองที่เราเลือกไว้ อ่านรายละเอียนให้ถี่ถ้วน ถ้าพบว่าข้อมูลถูกต้องให้ คลิก “ยืนยันการจอง” 

หน้าจอจะขึ้นคำเตือนว่า ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลส่วนตัวได้ เลือก “ยินยอม” แล้ว คลิก “ยืนยัน” 

จากนั้นหน้าจอจะแสดงข้อมูลการจองคิว โดยมีรายละเอียด ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเวลาที่จองคิวต่อใบขับขี่ ประเภทงานที่จองคิว สถานที่ที่จองคิวต่อใบขับขี่ คิวอาร์โค้ด อย่าลืมถ่ายภาพหน้าจอเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงให้กับเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่ง เป็นอันเสร็จสิ้น 

ทั้งนี้ สามารถ คลิก “รายละเอียดเอกสารที่ต้องเตรียม” เพื่อทราบว่าต้องนำเอกสารอะไรไปใช้ในการต่อใบขับขี่บ้าง 

อย่าลืม คลิก ให้ดาว เพื่อให้คะแนนความพึงพอใจในการจองคิวต่อใบขับขี่ล่วงหน้า

13. วิธียกเลิกการจอง

ในกรณีที่ไม่สะดวกเข้ารับบริการต่อใบขับขี่ ในวันและเวลาที่ทำการจองไปแล้วในระบบ สามารถทำการยกเลิกได้ โดย คลิกเข้าไปที่ “คิวของฉัน” จากนั้นหน้าจอจะแสดงข้อมูลการจองคิวใบขับขี่ที่เราจองไว้ 

คลิก “ยกเลิกคิว” หน้าจอจะขึ้นว่า ท่านต้องการยกเลิกคิวพร้อมรายละเอียด ให้เลือก “ยืนยันการดำเนอนการยกเลิกการจองคิว” แล้ว คลิก “รับทราบ” 

หน้าจอจะแสดงรายละเอียดการจองคิวใบขับขี่ที่เราได้ยกเลิกไป เป็นอันเสร็จขั้นตอนการยกเลิกจองคิวต่อใบขับขี่

ข้อควรปฏิบัติ เมื่อถึงวันนัด (วันที่ไปต่อใบขับขี่)

1. ต้องไปติดต่อก่อนเวลานัดหมายอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

2. เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย ได้แก่ ใบขับขี่เดิม, บัตรประชาชนฉบับจริง และใบรับรองแพทย์ (ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน) รวมถึงค่าใช้จ่ายในการต่ออายุใบขับขี่ จำนวน 505 บาท (ค่าใบขับขี่ 500 บาท + ค่าคำขอ​ 5 บาท)

3. หากไม่มาติดต่อภายในวันเวลาที่กำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ และต้องจองคิวใหม่

4. โปรดแต่งกายสุภาพ

มาแบบละเอียดขนาดนี้ ไม่ว่าใครก็ทำตามได้ไม่ยาก ใบขับขี่ใกล้หมดอายุเมื่อไหร่ อย่าลืมจองคิวต่อใบขับขี่ล่วงหน้า ผ่าน DLT แล้วจะพบว่าชีวิตดีขึ้นเยอะ ประหยัดทั้งเวลาและค่าเดินทาง มีใบขับขี่แล้วอย่าลืมว่า ต้องรักษากฎจราจรอย่างเคร่งคัด และเพื่อความไม่ประมาท เซฟทั้งตัวเองและรถที่คุณรัก ทำประกันรถยนต์เพื่อไว้ด้วย เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ก่อนซื้อประกันรถ กับ ชัวร์ครับ 

สอบถาม