ง่ายกว่าที่คิด! ทำใบขับขี่ใหม่ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

ทำใบขับขี่ใหม่ ไม่ยุ่งยาก และไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าตรู่อีกต่อไป เพราะตอนนี้สามารถจองคิวทำใบขับขี่ล่วงหน้าได้เแล้ว แค่คุณมีสมาร์ตโฟน และโหลดแอปพลิเคชัน “DLT Smart Queue” ก็สามารถจองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบาย แต่ถ้าไม่สะดวกโหลดแอปพลิเคชั่น ก็ใช้บริการช่องทางเว็บไซต์ ได้เลย คลิกที่ลิงค์นี้ >> https://gecc.dlt.go.th  จองคิวทำใบขับขี่ใหม่ ทางออนไลน์ได้ ไม่ต้องไปรอคิวนานๆ ให้เสียเวลา ใครไม่เคยจองคิวทำใบขับขี่ ชัวร์ครับ จัดมาให้แล้ว ทำตามนี้ได้เลย

หลังจากที่โหลดแอปพลิเคชัน หรือเข้าหน้าเว็บไซต์ ให้ทำการลงทะเบียนในการทำใบขับขี่ โดยกรอกรหัสบัตรประชาชน และใส่ข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน เลือกสำนักงานขนส่งพื้นที่ตามที่เราต้องการใช้บริการ สะดวกที่ไหนจองไปที่นั่นได้เลย หลังจากนั้น เลือกวัน เวลาที่ต้องการ และกดยืนยันทำการจองคิว (เพื่อความชัวร์อย่าลืมเก็บเป็นหลักฐานหรือแคป หน้าจอไว้ด้วยนะ)

ตัวอย่างการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์

ตัวอย่างการกรอกข้อมูลประเภทใบอนุญาต

เลือกวัน และเวลาที่ต้องการ ทำใบขับขี่

ตัวอย่างการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue

ดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue Android , iOS

ตัวอย่างการกรอกข้อมูลประเภทใบอนุญาต

หลังจากนัดวันทำใบขับขี่แล้ว ขั้นตอนต่อไป  คือการไปตามวันที่เรานัดลงทะเบียน มาถึงปุ๊บ ยื่นเอกสารตรวจสอบปั๊บ และเข้าขั้นตอนทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ว่าเราพร้อมที่จะขับรถหรือไม่ เช่น ทดสอบการมองเห็นสีอย่างเขียว แดง เหลือง, ทดสอบทางลึก ทดสอบทางกว้าง, และทดสอบปฏิกิริยาเท้า หรือการเบรกให้ทัน

สำหรับผู้ทำใบขับขี่ใหม่ หลังจากที่ลงทะเบียนนัดวันกันเสร็จสรรพแล้ว ขั้นตอนสำคัญคือการอบรมเกี่ยวกับการจราจร กฎการใช้ถนนร่วมกันกับผู้อื่น ข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ อย่างน้อย 5 ชั่วโมง แต่อย่าเพิ่งเบื่อกันซะก่อน เพราะนี่คือคลังความรู้สำหรับสอบข้อเขียน ซึ่งจะอยู่ในขั้นต่อไป 

ส่วนคนที่อบรมออนไลน์ สามารถทำได้เฉพาะผู้ที่มีใบขับขี่ และเป็นการต่ออายุใบขับขี่เท่านั้น เมื่ออบรมเสร็จแล้ว ถึงขั้นตอนการทำแบบทดสอบข้อเขียนผ่านระบบ Electronic Examination (E-exam) ข้อสอบมีจำนวน 50 ข้อ จะต้องตอบให้ถูกอย่างน้อย 45 ข้อ แต่ไม่ยากเกินไปหรอก เพราะอบรมมาแล้ว ทำได้แน่นอน ! แต่ถ้าไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดจะต้องมาสอบใหม่ในวันถัดไป หรือไม่เกิน 90 วันหลังอบรมนั่นเอง

มาถึงช่วงสุดท้ายของการสอบปฏิบัติ จะต้องทำการนัดหมายอีกครั้ง เนื่องจากเราใช้เวลาในการอบรมและสอบข้อเขียนไปแล้วหลายชั่วโมง การสอบภาคปฏิบัติเวลาจึงอาจจะไม่พอ ซึ่งการสอบขับรถยนต์หลัก ๆ จะมี 3 ท่าหลัก ๆ คือเดินหน้าและถอยหลัง ท่าจอดรถเทียบทางเท้า ไม่ให้ชนขอบทาง หรือเกยไหล่ทาง ท่าขับรถถอยเข้าซอง เปลี่ยนเกียร์ได้ไม่เกิน 7 ครั้ง เมื่อผ่านแล้วขั้นตอนสุดท้าย คือชำระค่าธรรมเนียมพิมพ์ใบขับขี่ พร้อมถ่ายรูป ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 200 บาท

ขอแถมอีกสักนิด สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่อยู่แล้ว และต้องการต่ออายุก็สามารถทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว  โดยสามารถเข้าเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com/Home เพื่อทำการอบรมใบขับขี่ออนไลน์  โดยลงทะเบียน กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และเลือกประเภทรถยนต์ที่ต้องการจะอบรม ซึ่งรถยนต์ส่วนบุคคลจะใช้เวลาอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับประเภทรถยนต์) ไม่จำเป็นต้องมาที่สำนักงาน 

ก่อนอบรมออนไลน์จะมีแบบทดสอบให้ทำก่อนและกดส่งคำตอบ หลังจากนั้นต้องดูวิดีโอจนจบ ห้ามกดข้ามเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นต้องดูใหม่ตั้งแต่ต้น เมื่อชมวิดีโอจบแล้ว จะเริ่มทำแบบทดสอบอีกครั้ง และกดส่งคำตอบ ระบบจะประมวลผลให้เรียบร้อย อย่าลืม ! บันทึกไว้เป็นหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ด้วยนะ และเพื่อความสะดวกในการต่อใบขับขี่ ต้องจองคิวนัดวันทางออนไลน์ก่อน พร้อมแสดงเอกสารหลักฐานต่าง ๆ แก่เจ้าหน้าที่ เพียงเท่านี้ก็ได้ใบขับขี่แล้วล่ะ  

เพื่อน ๆ อย่าลืมเช็คใบขับขี่ของตัวเองด้วยนะว่าหมดอายุวันที่เท่าไหร่ แต่ถ้าใครอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมล่ะก็ ชัวร์ครับจัดให้ไปเลยที่เฟซบุ๊กกรมขนส่งทางบก facebook.com/PR.DLT.News และเว็บไซต์ https://www.dlt.go.th จะอัปเดตเรื่องราวต่าง ๆ ให้คุณไม่พลาดแม้แต่เรื่องเดียว และสำหรับมือใหม่หัดขับ เพื่อลดความเสี่ยงบนท้องถนน ชัวร์ครับ แนะนำให้ทำประกันรถยนต์ไว้ด้วย มีไว้อุ่นใจกว่า ขับรถยนต์แบบไม่ต้องกังวลด้วย

สอบถาม